เปิดคำตัดสิน ‘ทวีเกียรติยศ’ 1 ใน 3 เสียงข้างน้อย ชี้ ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีตั้งแต่ 24 เดือนสิงหาคม65
จากในกรณีที่ภาควิชาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำตัดสินเสียงส่วนใหญ่ 6 ต่อ 3 เสียงว่า การครองตำแหน่งนายกฯของ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปีจากที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ระบุ เพราะชี้ว่า ให้เริ่มนับวาระนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ ก็เลยให้ พล.อำเภอประยุทธ์กลับปฏิบัติภารกิจนายกฯนับจากตอนนี้เป็นต้นไป
ย้อนอ่านข่าวสารที่เกี่ยวพัน
บิ๊กตู่ พ้นบ่วง! ความเห็น 6 : 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ให้คัมแบ๊กทำเนียบ ชี้เป็นนายกรัฐมนตรีมาไม่ถึง 8 ปี
เปิด ‘6 ตุลาการ’ ศาลรัฐธรรมนูญ โหวตให้ ‘ประยุทธ์’ คัมแบ๊ก
ปัจจุบัน ( 1 ตุลาคม) นักข่าวรายงานอ้างถึงคำพิพากษาของ นายทวีเกียรติยศ มีนะกนิษฐ 1 ใน 3 ตุลาการฯ เสียงข้างน้อย ซึ่งวิเคราะห์ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ พล.อำเภอประยุทธ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วก็ครบ 8 ปีไปแล้วตอนวันที่ 24 ส.ค. 2565 โดยเจาะจงตอนหนึ่งว่า การที่ชาติบ้านเมืองอยู่ได้ปกติสุขมีความเรียบร้อย ไม่ใช่เป็นเนื่องจากการบังคับใช้ข้อบังคับ แค่เพียงหนึ่งเดียวซึ่งส่งผลต่อการควบคุมการกระทำของบุคคลเพียงแค่เล็กๆน้อยๆแค่นั้น ถ้าเกิดจำเป็นต้องอาศัยสำนึก ที่ดี (good conscience) ศีลธรรม (moral) แล้วก็สิ่งที่พึงจะกระทำปฏิบัติ (tradition) ซึ่งส่งผลควบคุมการกระทำของบุคคลเป็นส่วนมากด้วย หลายเรื่องที่หากแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ว่าผิดศีลธรรม (not illegal but it is wrong or immoral) ก็ไม่สมควรกระทำ ยกตัวอย่างเช่น การพูดเท็จอันเป็นต้นสายปลายเหตุที่การปกปิดหรือบิดเบือน ข้อเท็จจริงทั้งปวง ถึงแม้จำนวนมากจะไม่เป็นความผิดตามข้อบังคับ แม้กระนั้นคนที่มีจรรยาบรรณหรือมีจิตสำนึกที่ดีหากแม้ทราบว่าไม่ผิดกฎหมายก็จะไม่ทำ ยิ่งถ้าเกิดเป็นหัวหน้าหรือคนที่มีตำแหน่งระดับที่ค่อนข้างสูงเป็นที่เชื่อใจของสามัญชนยิ่งจะต้องปฏิบัติปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนธรรมดาทั่วไป
บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมีพื้นฐานมาจากหลักนิติเมืองย่อมมีขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้อย่างเป็นกลางรวมทั้งเป็นกลางไม่เลือกปฏิบัติ มองเห็นได้จากพระราชเปรยที่ว่า นับตั้งแต่ได้มีการ “…พระราชทานรัฐธรรมนูญ ที่แว่นแคว้นไทย พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา การปกครองของเมืองไทยได้ดำรง ความมุ่งหมายถือมั่นในระบบประชาธิปไตยอันมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ตลอดโดยตลอด ถึงแม้ได้มีการยกเลิก ปรับแต่งเสริมเติมและก็ประกาศใช้รัฐธรรมนูญเพื่อจัดระบบการปกครองได้สมควรหลายหน แต่ว่าการปกครองก็ไม่ได้มีเสถียรภาพหรือภาพอื่นเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะเหตุว่ายังคงเผชิญปัญหาและก็ข้อขัดข้องต่างๆ
บางคราวเป็นวิกฤตทางรัฐธรรมนูญที่หาทางออกมิได้ เหตุส่วนหนึ่งส่วนใดเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่มีผู้ไม่นำพาไหมเชื่อถือหรือเคารพยกย่องระเบียบการปกครองประเทศชาติ คดโกงหลอกลวงบิดเบือนอำนาจหรือขาดความเข้าใจสำนึกรับผิดชอบต่อชาติรวมทั้งพสกนิกรจนถึงทำให้การบังคับใช้ข้อบังคับไม่เป็นผลซึ่งต้องคุ้มครองป้องกันแล้วก็ปรับปรุงด้วยการปรับปรุงการเรียนรวมทั้งการบังคับใช้ข้อบังคับแล้วก็สร้างเสริมความแข็งแกร่งของระบบความดีแล้วก็ศีลธรรม แม้กระนั้นเหตุอีกส่วนเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกฎที่ต้องปฏิบัติตามการปกครองบ้านเรือนที่…ให้ความใส่ใจแก่แบบและก็กรรมวิธีการมากกว่าวิธีการรากฐานในระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่าบางทีอาจนำกฎที่ต้องปฏิบัติที่มีอยู่มาใช้แก่ความประพฤติของบุคคลแล้วก็เหตุการณ์ในยามวิกฤตที่มีแบบแล้วก็กรรมวิธีไม่เหมือนกันกับเดิมให้เห็นผล…”
เนื้อความตามพ.ร.บ.นี้มีความปรารถนาไปที่ “ผู้ใช้อำนาจ” หรือประธานที่ “เข้ามามีอำนาจสำหรับการปกครองบ้านเมือง” ไม่ได้ตั้งใจไปที่ “บุคคลปกติ” หรือพลเมืองโดยธรรมดาที่ไม่ได้มีอำนาจสำหรับการปกครองบ้านเมือง
ส.ส.ผู้บัญญัติกฎหมายให้ประชากรปฏิบัติดีแล้ว ฝ่ายบริหาร ผู้กุมอำนาจดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหลายแหล่ จะต้องปฏิบัติประพฤติตนอย่างเคร่งครัดให้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับในการใช้ “ศีลธรรมนำข้อบังคับ หรือเข้มงวดตน ลดหย่อนผู้อื่น” ไม่ใช่เข้มงวดบุคคลอื่น ผ่อนผันตัวเองเพื่อจะได้ทุเลาหรือยับยั้งวิกฤตเลื่อมใสของพลเมืองที่มีต่อจรรยาบรรณ ข้อบังคับแล้วก็ผู้กุมอำนาจบังคับใช้ข้อบังคับในบ้านเมืองลงได้บ้างอนึ่ง การไม่ทรหดอดทนที่จะยกย่องข้อตกลง เปลี่ยน “คำสัญญาชุมชน” อยู่เรื่อยทำให้คนทั้งหลายแหล่ขาดเลื่อมใสสำหรับในการเคารพนับถือข้อตกลงนั้นๆ
ส่วนหัวข้อการตรึกตรองตามคำตัดสินส่วนตนของนายทวีเกียรติยศ โดยสรุปว่าจุดหมายของวาระครองตำแหน่งนายกฯไม่ให้เกิน 8 ปี เป็นการควบคุมและก็จำกัดอำนาจของผู้ใช้อำนาจไม่ให้มีการผูกขาดด้านการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯซึ่งมีอำนาจสูงสุดสำหรับการบริหารอำนาจเมือง ทั้งปรากฏว่าบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ให้รวมช่วงเวลาครองตำแหน่งคณะรัฐมนตรีก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ด้วย โดยไม่มีข้องดเว้นกำหนดไว้ “ถ้าไม่อยากให้ใช้บังคับก็ควรจะเขียนละเว้นไว้ให้ชัด ”
การจำกัดช่วงเวลาครอบครองตำแหน่งของนายกฯเพื่ออยากไม่ให้มีการผูกขาดอำนาจทางด้านการเมืองช้านานเหลือเกิน ยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งสามารถสร้างฐานรากอำนาจไว้กับตนรวมทั้งพวก นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการมัดขาดอำนาจ ถือมั่นในตัวบุคคลมากยิ่งกว่าวิธีการระบบประชาธิปไตย อันบางทีอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดวิกฤตด้านการเมืองได้
การครองตำแหน่งนายกฯของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย ทั้งยังในข้อสรุปแล้วก็ในตัวบทกฎหมายถูกต่อเนื่องกันโดยตลอด รวมทั้งเมื่อมีการไปสู่ตำแหน่งโดยถูกใจอย่างเป็นทางการแล้วรวมทั้งได้มีการใช้อิทธิพลบริหารประเทศในความเป็นจริงช่วงเวลาหรือวาระการครองตำแหน่งก็เลยจำเป็นต้องเริ่มนับโดยทันที
สำหรับที่มานายกฯตามข้อตกลงมาตรา 158 วรรคสองและก็วรรคสาม ที่ให้มาจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 263 วรรคแรก ให้สภานิติบัญญัติทำแทนสภาผู้แทนราษฎรในขณะที่ยังไม่มีได้ ซึ่งการลงชื่อรับตอบสนองพระบรมราชโองการของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชะ เป็นนายกฯเมื่อปี 2557 ก็เลยถูกใจด้วยรัฐธรรมนูญนี้แล้วก็ข้อบังคับ
วิธีการจำกัดวาระแปดปีของนายกฯในระบบการบ้านการเมืองไทยมีประกาศให้รับทราบโดยธรรมดา รวมทั้งมุ่งใช้ตลอดตั้งแต่รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2550 ซึ่งผ่านมติมหาชนเจตนารมณ์ของพลเมือง ที่มีมาก่อนรัฐกฎหมายธรรมนูญฯ ฉบับชั่วครั้งคราว พุทธศักราช 2557 ก็เลยไม่ใช่การบังคับใช้ข้อบังคับย้อนไป แม้กระนั้นยังเป็นจารีตการปกครองเมืองไทยในระบบประชาธิปไตยอันมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธาน
ความเป็นจริงปรากฏเป็นที่กระจ่างว่า เมื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย ไปสู่ตำแหน่งนายกฯอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีหน้าที่และก็ใช้อิทธิพลหน้าที่บริหารประเทศตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ รับเงินเดือนรวมทั้งผลตอบแทนต่างๆในฐานะนายกฯ ตลอดจนไม่ต้องยื่นบัญชีเงินเพิ่มเมื่อไปสู่ตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอ
“ก็เลยจัดว่าการครองตำแหน่งนายกฯของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย ผู้ถูกร้องทั้งยังในเรื่องจริงแล้วก็ในตัวบทกฎหมาย ถูกต่อเนื่องกันโดยตลอดแล้ว และก็เมื่อมีการไปสู่ตำแหน่งโดยถูกใจอย่างเป็นทางการแล้ว แล้วก็ได้มีการใช้อิทธิพลบริหารประเทศตามความจริง ช่วงเวลาหรือวาระการครองตำแหน่งก็เลยจะต้องเริ่มนับในทันที ยิ่งเมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ระบุช่วงเวลาดังที่กล่าวมาข้างต้นไว้ ยิ่งทำให้เห็นว่า ถ้าเกิดมีการครอบครองตำแหน่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมาเป็นระยะเวลากว่า 8 ปีแล้ว ไม่อยากให้ผู้นั้นครอบครองตำแหน่งนายกฯตามรัฐธรรมนูญใหม่นี้อีก”
นายทวีเกียรติยศ บันทึกข้อคิดเห็นส่วนตนไว้ว่า ผู้ถูกร้องก็เลยครอบครองตำแหน่งนายกฯถึงกำหนดเวลาตามรัฐธรรมนูญ ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯของผู้ถูกร้องก็เลยสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติภารกิจ 24 เดือนสิงหาคม 2565 แต่ว่าให้อยู่ทำหน้าที่ถัดไปจนกระทั่งคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1)