‘ยุทธวงศ์วาน’ ฝ่าต่อข้างหลังอภิปราย วันพรุ่งจัดเตรียมยื่น สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2 เรื่อง ‘คุณครูตั้น’ ตั้งคนสนิทสนมนั่งเลขาฯ สกสค. กับ เงื่อนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ท้าทายคนปล่อยข่าวตนเองขายข้อสอบ อย่าพูดลับหลัง ขอให้หยุดป้ายความผิดกัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย (พื้นที่) นายยุทธเหล่ากอ แจ่มแจ้งเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมหาสารคาม รวมทั้งรองหัวหน้าพรรคพื้นที่ พร้อมกับ นายจิรดงษ์ ทรงวัเฒ่าภรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี พรรคพื้นที่ แถลงภาพรวมข้างหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยกล่าวว่า เราฝ่ายค้านปฏิบัติงานกันเป็นกลุ่ม ทุกพรรคมีส่วนร่วม ทำให้การอภิปรายคราวนี้บรรลุความสำเร็จ ในรัฐมนตรี 10 คน คะแนนเป็นที่ปรากฏชัดเจนว่าฝ่ายค้านไม่สามารถที่จะมีคะแนนเสียงชนะรัฐบาลได้ แม้กระนั้นมีรัฐมนตรี 3 ผู้ที่ตอบมิได้เลย เป็น
1.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โยนสิ่งเดียวว่าคือเรื่องของกระดาน. และก็กล่าวว่ากระดาน องค์การคลังสินค้าเป็นคณะรัฐมนตรี ตนเองมิได้ตั้ง ตนในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีมา เคยเป็นประธานกระดานต่างๆก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีควรจะเป็นผู้เซ็ตชื่อเสนอ อีกเรื่องนายจุริทร์ตอบไม่สะสางเป็นที่กล่าวว่าไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแทรงการปฏิบัติการของ องค์การคลังสินค้า ได้ ทั้งๆที่มีการสัมมนากันทุกเดือน
2.นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องจะนะ นายนิพนธ์ตอบไปคนละเรื่อง ไม่ตรงปัญหาเลย ความข้องเกี่ยวบิดาลูกแยกกันไม่ขาดหรอก
รวมทั้ง 3.นายณัฏฐพล คราวปกาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้คะแนนต่ำที่สุด อาการหนักสุด มั่นใจว่าจะถูกปรับออกมาจาก คณะรัฐมนตรี แน่ๆ เตือนนายกรัฐมนตรีว่าถ้าเกิดไม่รีบจัดการ กรณีนี้จะเป็นโรคมะเร็งร้ายทำลายรัฐบาล
วันพรุ่ง (22 เดือนกุมภาพันธ์) เวลา 08.30 น. ตนจะไปยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประเด็นการขัดแย้งกันที่ผลตอบแทนตามมายี่ห้อ 126 แล้วก็ 127 กรณีตั้ง นายธนพร สมศรี คนคุ้นเคย เป็นเลขาธิการคณะกรรมการผลักดันผลประโยชน์รวมทั้งความปลอดภัย คุณครูและก็เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา (สกสค.)
นายยุทธพงศ์พันธุ์ กล่าวอีกว่า ถัดมาเป็นเรื่องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งนับว่าเป็นรถไฟฟ้าทางที่เยี่ยมที่สุด ทำเงินอย่างใหญ่โต กลับไม่นำเข้า พระราชบัญญัติร่วมหุ้น มีการทำนิติกรรมปิดบัง ไม่ถูกต้องตามกฎหมายฮั้ว ดำเนินงานอย่างไม่โปร่งใสสำหรับการว่าจ้างวิ่งรถยนต์
ดังนี้ ที่ผ่านมา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์สมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคพื้นที่ เคยไปร้องไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งวันพรุ่ง (22 ก.พ.) ตนจะไปร้องเสริมเติมที่สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย เรื่องที่ ม.ร.ว.อ่อนโยนประเภท บริพัตร อดีตกาลผู้ว่ากรุงเทพฯ ไปต่อขยายการว่าจ้างวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย ดังนี้ ที่จำเป็นที่จะต้องรีบไปยื่นเนื่องจากฝ่ายค้านจำเป็นต้องรีบตามใจความสำคัญ เนื่องด้วยควรจะมีการยื่นอีกหลายเรื่อง
นายยุทธเหล่ากอ กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะมีการอภิปรายมีเสียงครหาว่า พรรคพื้นที่มีการขายข้อสอบไหม ตนขอเรียนอย่างตรงไปตรงมว่าไม่มีผู้ใดไปทำไม่ดีร้ายแบบงั้นหรอก ตนเรียนจบจากประเทศอเมริกา เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตั้งแต่ปี 44 ตนร้องมาหลายคดี ผู้ที่ปล่อยข่าวใส่ความพรรคพื้นที่ต่างๆนานา ร้องขอว่าอย่าทำเลที่ตั้งย อย่าปล่อยข่าวทำลายกันด้านการเมือง ขอให้หยุดเหอะ
คราวนี้ข้อสอบไม่รั่ว เนื่องจากว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในตำแหน่งแค่นั้น แต่ว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสอบตกบางบุคคลที่ต้องการเข้าไปอภิปรายในที่ประชุมก็เลยเพียรพยายามปล่อยข่าว พรรคพื้นที่เป็นพรรคชั้น 1 อภิปรายนายณัฏฐพล ตายกึ่งกลางที่ประชุม แบบงี้ล้มมวยหรือ ท้าทายผู้ที่พูด่าอย่าพูดลับหลัง เปิดตัวออกมาเลย ท้าทายไปออกทีวีแข่งขันกันกับตนก็ได้ ดังนี้ ตนกล่าวเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาตั้งแต่การอภิปรายครั้งที่แล้ว วันนี้ก็ทำให้มิได้ขึ้นค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสาร
เมื่อถามคำถามว่า ฝ่ายค้านมีงูเห่าโผล่ด้วย นี้จะมีมาตรการปฏิบัติการยังไง นายยุทธเหล่ากอ บอกว่า เรื่องงูเห่าท่องเที่ยวนี้ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีเลยด้านการเมือง ประเด็นนี้มีต้นเหตุมาจากรัฐธรรมนูญปี 60 ที่มีปัญหา พวกเราก็เลยเรียกร้องใหมีการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่จำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามความเห็นพรรคก็ได้เพราะว่ารัฐธรรมนูญปกป้องรักษาไว้ แถมยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องกล้วยอีก แต่ว่าไม่มีผู้ใดกล้ามาติดต่อตน เพราะว่าตนไม่รับประทานกล้วย แล้วก็บ้านตนที่มหาสารคาม สวนของแม่มีกล้วยมากมายแล้ว
เมื่อถามหากรณี พรรคพื้นที่ตระเตรียมจัดงานกิจกรรมตลอด “เติมเต็มข้างหลังการอภิปราย”เพื่อเปิดเผยการกระทำความโหดของรัฐบาลตกทอดอำนาจให้ปรากฎต่อสายตาประชากร จะเป็นลักษณะของการอภิปรายนอกที่ประชุมไหม นายยุทธวงศ์วาน พูดว่า ตนด้อยกว่าหัวหน้าพรรค เป็นผู้ตัดสินบริหารพรรค เป็นคณะกรรมการการบ้านการเมืองของพรรค พรรคยังไม่เคยมีการคุยกันประเด็นนี้ เนื่องจากว่าพวกเรามีที่ประชุม รวมทั้งพวกเราปฏิบัติภารกิจในที่ประชุม ตนมีความรู้สึกว่าก็ควรจะจบในที่ประชุม แล้วไปจัดการต่อสำหรับเพื่อการฟ้องร้องคดีกับองค์กรอิสระที่เกี่ยวโยง ดังเช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ