‘ทนายความ’ ไขคำตอบ ผัวเป็น ตำรวจนอกใจ สมรสใหม่ในขณะที่ยังไม่หย่า พบเมียไลฟ์กึ่งกลางงานสมรส ไม่ถูก กิโลเมตรไหม?
มีหัวข้อใหม่ให้ติดตามอีกแล้ว สำหรับในกรณีที่สาวรายหนึ่งแต่งชุดสีดำบุกไปงานสมรสผัวตนเอง ซึ่งรับราชการตำรวจ กำลังเข้าพิธีการแต่งงานกับหญิงอื่น กระทั่งถูกผัวไล่ออกจากบ้าน โดยจำต้องนำใบแต่งงานมาโชว์ ก่อนที่จะหญิงสาวรายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะไปยื่นฟ้องแพ่งสตรีที่สมรสใหม่เรียกร้องค่าเสียหาย โดยทั้งสองนั้นอยู่กินกันมา 16 ปี และก็มีลูกสาวร่วมกัน 2 คน
ถัดมา โลกอินเตอร์เน็ตแชร์คลิปวิดีโอบรรยากาศงานสมรสของทั้งสอง ในเวลาที่พระกำลังสวดมนตร์ โดยมีหญิงรายหนึ่งแต่งชุดสีดำ ถือโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไปยังเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่สนใจพระที่กำลังสวดมนตร์ ก่อนที่จะผลักหัวแล้วก็ตบหัวเจ้าบ่าวจนกระทั่งกำเนิดเสียงดัง รวมทั้งชี้หน้าด่าทอ ก่อนที่จะหญิงรายดังที่กล่าวมาข้างต้นจะเดินออกไปจากห้องนั้น รวมทั้งพิธีการจัดการถัดไป
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ เพจเฟซบุ๊ก “ทนายความคู่ใจ” ของ นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานโครงข่ายรณรงค์ทวงคืนความชอบธรรมในสังคม ให้คำปรึกษาว่า เป็นข่าวดังหน้าหนึ่ง เมื่อมีสาวเจ้าหนึ่งบุกไปยังงานสมรสของเจ้าบ่าวเจ้าสาว โดยการเอาทะเบียนสมรสไปถามชายหนุ่มเจ้าบ่าวว่าทำพิธีสมรสใหม่ได้อย่างไร ในเมื่อทะเบียนสมรสยังติดอยู่อยู่กับกับตัวเอง มิหนำซ้ำชายหนุ่มเจ้าบ่าวรายนี้ยังเป็นตำรวจ ในกรณีการจัดงานสมรสแบบงี้ โดยทะเบียนสมรสยังค้างอยู่ มิได้มีการหย่าจากเมียเก่า ในทางข้อบังคับนั้นไม่สามารถที่จะจดทะเบียนใหม่ซ้ำไปซ้ำมาได้ ถ้าจดทะเบียนใหม่ ก็จะกลายเป็นโมฆะ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่เป็นผลผูกพันธ์เป็นผัว-เมียที่ถูกกฎหมายนั่นเอง
“ถึงตามความเป็นจริงบางทีอาจจะเลิกราต่อกัน แยกทางกันอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่ว่าในทางข้อบังคับ แม้ทะเบียนสมรสยังติดอยู่กันอยู่ ก็จำต้องถือได้ว่าผัว-เมียกันอยู่ ถ้าจะเลิกให้ถูกกฎหมาย ข้อบังคับระบุว่าให้ไปลงทะเบียนหย่า หรือฟ้องหย่าตามขั้นตอนข้อบังคับ (เปรียญแพ่ง มัธยม1514)
“เมื่อข้างชายหนุ่มเจ้าบ่าว ยังมิได้ลงทะเบียนหย่า หรือฟ้องหย่าให้เสร็จ แต่ไปทำพิธีสมรสกับเจ้าสาวใหม่นั้น ในทางข้อบังคับจัดว่า ซึ่งเป็นการชมเชยคนอื่นฉันภริยา เรียกกล้วยๆว่า ‘คบชู้’ ในทางข้อบังคับส่งผลให้ภรรยาที่กอดทะเบียนสมรสไว้นั้น สามารถทำงานฟ้องหย่า ชายหนุ่มเจ้าบ่าว แล้วก็เรียกค่าชดเชย จากข้างหญิงที่มาคบชู้ได้ หรือจะไม่ฟ้องหย่าเลย แต่ว่าจะฟ้องค่าชดเชยจากชู้รักสิ่งเดียวก็สามารถทำเป็น (มัธยม1516 (1) ประกอบ มัธยม1523 )
“ทางออกของชายหนุ่มเจ้าบ่าว แม้อยากได้ที่จะหย่า แม้กระนั้นภรรยาไม่ยินยอมประสานมือกันไปขึ้นทะเบียนหย่า ก็จำต้องปฏิบัติงานใช้สิทธิทางศาล ฟ้องหย่า สิ่งเดียว ซึ่งในทางข้อบังคับนั้น การที่จะใช้สิทธิทางศาลสำหรับการฟ้องหย่านั้นก็จะต้องมีเหตุ ดังเช่นว่าข้างหญิงคบชู้, แยกกันอยู่เกิน 3 ปี, เจตนาทิ้งร้างอีกข้างไปเกิน 1 ปี, ประพฤติชั่วรุนแรง, บ้า, เป็นโรครุนแรง, ประทุษร้ายอีกข้าง, หรือเปล่าบางทีอาจเสพสังวาสกันได้ฯ (มัธยม1516) แม้ไม่เข้ากรณีตามนี้ก้ไม่มีเหตุที่จะฟ้องหย่าได้ ฟ้องไปศาลก็ไม่สามารถสั่งให้ได้
อ่านข่าวสาร
– สาวสุดบอบช้ำ ไลฟ์สดถือทะเบียนสมรส ไปร่วมงานแต่งสามีกับหญิงอื่น ถูกไล่ บอกไม่ใช่แขก
–‘เมียหลวง’ เปิดใจ นาทีทราบสามี ตำรวจมีหญิงอื่น กระทั่งบุกงานแต่งงาน เผยอยู่รับประทานมา 16 ปี มีลูกสาว 2 คน
– แชร์ลั่น! เผยอีกคลิป อ้างแม่สามีแต่งดำบุกงานสมรส ผลัก-ตบหัวเจ้าบ่าวขณะพระสวดมนตร์
“การที่เมียไม่ยินยอมลงบัญชีหย่าให้นั้น อันที่จริงแล้วก็มีมากมายครับผม บางโอกาสก็จะต้องรู้เรื่องข้างหญิงเพราะว่าเขามีลูกร่วมกัน ครั้งคราวมันก็จำเป็นต้องคิดมากกว่าคำว่ารักหรือเปล่ารัก หรือบางบุคคลก็ยอมกอดทะเบียนสมรสเอาไว้ เพื่อหวังในสินสมรส ก็มีเช่นเดียวกัน
“แม้กระนั้นดังนี้ ข้างชายเจ้าบ่าวดันเป็นตำรวจด้วยนี่สิครับผม หัวข้อนี้ แม้ข้างเมียหลวงจะ ร้องทุกข์ระเบียบ นี่ผมบอกได้เลยว่างานเข้า ด้วยเหตุว่าการที่เจ้าหน้าที่รัฐคบชู้เนี่ย ถือได้ว่าเป็นการประพฤติชั่ว อันเป็นความผิดพลาดระเบียบรุนแรง ถึงกับขนาดไล่ออกจากราชการได้เลย เคยมีกรณีศึกษาที่เจ้าหน้าที่รัฐถูกออกมาจากราชการเพราะว่าคบชู้มาแล้วหลายร้าย
“แต่ว่าการที่เมียหลวงบุกไปที่งานมงคลสมรส แล้วมีการไลฟ์สด หัวข้อนี้แม้ว่าสังคมจะเห็นอกเห็นใจเมียหลวงก็ตาม แม้กระนั้นในทางข้อบังคับก็ สุ่มเสี่ยงที่จะเป็นความไม่ถูกฐานกล่าวหาโดยการโฆษณา อยู่เช่นเดียวกัน (ซึ่งผมก็ยังมิได้ฟังคลิปไลฟ์สดนะ ) โดยถ้าเกิดมีคำว่า “ภรรยาน้อย” หรือกล่าวอ้างอิงถึงภรรยาน้อยแล้วเนี่ย เขาบางทีอาจจะฟ้องได้แบบเดียวกัน ซึ่งมีโทษติดคุกมากถึง 2 ปี ปรับมากถึง 2 แสนบาท (เปรียญอาญา มัธยม328)
“เรื่องในครอบครัวก็ควรจะคุยกันให้ชัดครับว่าจะเลียนแบบไร จะหย่ากัน สินรสรส หนี้สินร่วม ค่าเลี้ยงดูลูก เอาให้แจ้งชัด ถ้าจะเลิกร้าง คุยกันมิได้ก็ไปว่ากันในศาล ให้ศาลวินิจฉัย ไม่ใช้ให้มันคั่งค้าง แล้วเกิดเรื่องขึ้นมาอย่างงี้”
ด้าน นายษิทรา เบี้ยเกิดขึ้น เลขาธิการมูลนิธิคณะทำงานทนายความประชากรฯ บอกว่า หากข้างชายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้วนอกใจ คบชู้สู่ชาย นับว่าผิดวินัยรุนแรง มีโทษถึงไล่ออก เมียหลวงสามารถร้องทุกข์ทางระเบียบของข้างชาย โดยใช้ภาพแล้วก็คลิปหลักฐาน ส่งถึงผู้บัญชาการ อย่างในคลิปที่กำลังเป็นไวรัล ที่ทำร้ายจิตใจเมียหลวงขั้นรุนแรง ไปสมรสใหม่ ในขณะที่ยังมีทะเบียนสมรสติดอยู่อยู่ อย่างนี้มีโทษถึงไล่ออก หมดอนาคต
“ยิ่งกว่านั้น เมียหลวงยังสามารถฟ้องเรียกค่าชดเชยจากภรรยาน้อยได้ด้วย ยิ่งมีลูก มีเต้า มีภาระหน้าที่ บางเคสนี่ร้องกันหลักล้านเลยค่ะครับผม จากนั้นเมียหลวงยังสามารถ ฟ้องหย่า ได้อีกด้วย
“จุดพีคสุดเป็น เมียหลวงสามารถบุกไปในงาน รวมทั้งประกาศได้เลยว่าเป็นเมียหลวง แม้กระนั้นจำเป็นต้องไม่ปองร้าย รวมทั้งสามารถโพสต์ในโซเชียลได้ ไม่ถือว่าเป็นการกล่าวหา เพราะว่าถือเป็นการปกป้องส่วนได้เสียของตัวเอง
“แต่ว่าที่แซ่บสุดของเคสนี้เป็นแม่เจ้าบ่าวนะครับ ทราบว่าลูกของตนเองกระทำผิด ตบลูกขายหน้าขายตาสั่นเลย 🤣 ในฐานะทนายความไม่สมควรส่งเสริมความร้ายแรง แม้กระนั้นในฐานะบิดา ถ้าหากลูกทำผิดไม่กล่าวเตือน ก็ยากที่จะเป็นบิดาที่ดีได้”
อ่านข่าวสาร : #กลุ่มเมียหลวง! สถานพยาบาลโผล่ตามหา ‘สาวบุกงานแต่งงาน’ เสนอแพ็กเกจ ‘โมตลอดตัวให้สามีเสียดาย’ แบบฟรีๆ
– ‘ผัว’ กระโดดคุ้มครอง ลั่น ‘ผมไม่ถูกเองผู้เดียว’ ข้างหลังเมียหลวงถือทะเบียนสมรสบุกงานมงคลสมรส